ลดผดผื่นด้วย "เจลว่านหางจระเข้" ครีมบำรุงสำหรับหน้าแพ้ครีม

คนแพ้ครีมนอกจากจะมีผดผื่นรบกวนผิวหน้าแล้ว มักมีผิวหน้าบอบบาง ระคายเคืองง่ายตามมาด้วย  การทาครีมหรือมอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อให้ผิวหน้าชุ่มชื้น ลดการอักเสบเบื้องต้นจึงเป็นสิ่งจำเป็น และมอยเจอร์ไรเซอร์ตัวหนึ่งที่ตอบโจทย์คนหน้าแพ้ครีม คือ "เจลว่านหางจระเข้" นั่นเอง

สรรพคุณเจลว่านหางจระเข้

• เพิ่มความชุ่มชื้น เติมน้ำให้กับผิวหน้า
• ลดการระคายเคืองของผิวหน้า
• ช่วยลดการอักเสบของผิว
• ลดอาการแสบร้อนจากอาการไหม้แดด
• ช่วยสมานแผล ลดรอยดำ รอยแผลเป็น
• ช่วยป้องกันแสงแดด
• ช่วยลดจุดด่างดำจากสิว

วิธีใช้เจลว่านหางจระเข้

ทาเจลว่านหางจระเข้ลงบนผิวหน้าที่แพ้ครีมหลังล้างหน้า วันละ 2 ครั้ง เช้า-ก่อนนอน ทาทิ้งไว้โดยไม่ต้องล้างออก ทาทุกวันเพื่อลดการระคายเคือง และการอักเสบของผิวที่เกิดขึ้น ช่วยลดผดผื่นจากอาการแพ้ได้เป็นอย่างดี แต่มีข้อแม้ว่าคนที่ใช้ต้องไม่แพ้ว่านหางจระเข้ หรือส่วนผสมที่อยู่ในครีม ไม่งั้นหน้าอาจแพ้ซ้ำซ้อนได้

เจลว่านหางจระเข้ยอดนิยม

Aloegel องค์การเภสัช

ขนาด 30 g ราคา 50 บาท

Nature republic aloe vera 92% soothing gel

ขนาด 30 ml ราคา 200 บาท

Pharmacok'f Burnova gel plus

ขนาด 25 g ราคา 50 บาท

Vitara Aloe Vera Gel Vitara 99.5 %

ขนาด 120 g 130 บาท

หน้าแพ้ครีม กับ เป็นสิว ต่างกันอย่างไร รักษายังไงดี?

บางครั้งคนเราอาจสับสนระหว่าง "แพ้ครีม" กับ "เป็นสิว" แยกไม่ออกว่าแตกต่างกันอย่างไร บางคนอาจเป็นแค่ผื่นแพ้แดงคัน บางคนอาจเป็นทั้งผื่นและสิวพร้อมกัน หรือบางคนไม่ได้แพ้ครีมแต่เป็นสิว จำแนกยากเหมือนกัน แต่ก็พอมีวิธีสังเกตความแตกต่างเบื้องต้นอยู่บ้าง

หน้าแพ้ครีม

• เป็นผดผื่นสีแดง ขนาดเท่าๆกัน
• ลักษณะเหมือนสิวไม่มีหัว
• มักขึ้นแบบเฉียบพลัน
• ไม่ได้เกิดจากการอุดตัน
• เวลาหายมักไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
• อาจมีอาการคันร่วมด้วย
• บางครั้งอาจมีอาการอักเสบ หรือตุ่มหนองร่วมด้วย

เป็นสิว

• มักเริ่มต้นจากการอุดตัน
• เกิดการอักเสบเป็นสิวอักเสบ สิวหนอง สิวหัวช้างได้
• อาจมีอาการคันบ้างแต่ไม่เยอะ
• เกิดจากฮอร์โมน การอุดตัน และเชื้อแบคทีเรียเป็นหลัก
• ถ้ารักษาไม่ดีหน้าจะเป็นแผลเป็น หรือหลุมสิวได้ง่าย
• มีหลายขนาด ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง อุดตันบ้าง อักเสบบ้าง
• ชอบขึ้นบริเวณที่มีความมันเยอะๆ
• บางคนเป็นสิวเพราะกรรมพันธุ์

การรักษา

การรักษาระหว่างแพ้ครีม กับ เป็นสิว บางครั้งอาจเหมือนหรือต่างกัน ขึ้นอยู่กับอาการที่เป็น เช่น ถ้าแพ้ครีม มีผดผื่นขึ้นโดยไม่มีสิวร่วมด้วย ไม่ควรทายารักษาสิวเพื่อลดผดผื่น เพราะอาจทำให้ผิวหน้าระคายเคืองมากขึ้น แต่บางคนแพ้ครีมแล้วมีสิวอุดตันเกิดขึ้น ไม่ได้เป็นผดผื่นแพ้ ก็ต้องทายารักษาสิวอุดตัน เช่น benzac ac , retin-a , differin เพื่อลดการอุดตัน และทำให้สิวอุดตันหลุดลอกออก แต่ถ้าใครเป็นสิวอุดตันเยอะๆ และมีงบประมาณ แนะนำให้ทำเลซอร์สิวอุดตัน ยิงครั้งเดียวช่วยให้สิวอุดตันหายเกลี้ยงได้ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหลักพัน หรือหลักหมื่นเลยทีเดียว

สำหรับคนที่แพ้ครีม การรักษาเบื้องต้นคือ "พักหน้า" หยุดแต่งหน้าทาครีมทุกชนิด ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าหรือผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยน เพื่อลดการระคายเคืองที่ทำให้ผดผื่นลุกลาม ถ้าผดผื่นขึ้นมากอาจต้องทายาหรือกินยาแก้แพ้เพิ่มเติม เพื่อลดผดผื่นที่เกิดขึ้น

แต่ถ้าทำยังไงก็ไม่ดีขึ้นควรปรึกษาหมอผิวหนัง แนะนำโรงพยาบาลของรัฐ เช่น โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลจุฬา สถาบันโรคผิวหนังราชวิถี ข้อดี คือ เป็นของรัฐบาลค่าใช้จ่ายถูก และหมอที่รักษาเป็นหมอผิวหนังผู้เชี่ยวชาญโดยตรง แต่ข้อเสียของโรงพยาบาลเหล่านี้คือ รักษาแต่ละทีต้องรอคิวนาน คนเยอะมาก เวลาหาแต่ละทีต้องไปทำบัตรต่อคิวเหมือนการรักษาโรคทั่วไป ไปรักษาทีเสียเวลาเป็นวัน

สำหรับคนที่ต้องการรักษาอาการหน้าแพ้ครีม หรือหน้าติดสเตีรอยด์ ตามไปอ่านได้ที่บทความนี้ครับ

•  รวมวิธีรักษาสิวสเตียรอยด์ หน้าแพ้ครีม ให้หายไวไว

แชร์สูตรรักษาสิวสเตียรอยด์ ที่หายยากหายเย็นเหลือเกิน

วันนี้ผมมี "สูตรรักษาสิวสเตียรอยด์" ที่น้องสาวผมใช้แล้วหายมาแชร์ครับ เรื่องของเรื่องคือน้องสาวผมเป็นสิวเพราะครีมยี่ห้อหนึ่ง ซื้อมาตอนแรกใช้ดีมาก 1 เดือนผ่านไปหน้าใสสิวหายเรียบ ก็เลยใช้ต่อไปเรื่อยๆ แต่มีช่วงหนึ่งไปต่างจังหวัดลืมเอาครีมตัวนี้ไป หยุดใช้ประมาณ 3 วัน อยู่ดีสิวก็ทยอยขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ผ่านมา 5 วัน สิวผด สิวอักเสบ สิวอุดตัน เห่อขึ้นมาทุกพื้นที่บนผิวหน้าจนน่าตกใจ ไม่รู้ทำไงดี ตัดสินใจไปหาหมอที่คลินิกแห่งหนึ่ง คือมันเยอะจนไม่ไหวแล้ว

หาหมอรักษาสิวที่คลินิก

หมอดูอาการหน้าน้องผม บอกว่าหน้าน้องผมแพ้อะไรสักอย่าง ก็เลยจ่ายยาทาแก้แพ้ โฟมล้างหน้า แล้วก็ยาทาหลังล้างหน้ามาให้ ใช้ยาหมออยู่ 2 เดือน ช่วงแรกก็เหมือนจะดีสิวลดลงไปเยอะ แต่ก้ยังเป็นๆหายๆอยู่ แต่มีช่วงหนึ่งน้องต้องไปทำงานต่างจังหวัดเป็นเดือน แล้วยาที่หมอจ่ายให้ดันหมด เลยไม่ได้ใช้ยาหมออย่าต่อเนื่อง หน้าจากที่เคยดี สิวก็เห่อขึ้นมาอีก น้องสาวผมเครียดมาก ไม่รู้ทำไงดี ตัดสินใจลองหาวิธีรักษาสิวจาก Internet ลองรักษาสิวด้วยตัวเองดูสักตั้ง

สิวสเตียรอยด์

หลังจากศึกษาข้อมูลใน Internet น้องผมเริ่มสงสัยว่า ตัวเองเป็นสิวสเตียรอยด์หรือเปล่า อาการที่เป็นใกล้เคียงมาก เช่น หยุดใช้ครีมแล้วสิวเห่อ สิวมีลักษณะเป็นผดผื่น แดง ขนาดเท่าๆกัน ก็เลยลองหาข้อมูลของคนที่เคยรักษาสิวเสตียรอยด์ แล้วลองมาใช้กับตัวเองดู ลองผิดลองถูกอยู่นาน จนได้ผลิตภัณฑ์และวิธีรักษาสิวที่เหมาะกับตัวเอง รักษาอยู่ประมาณ 6 เดือน สิวหายเกลี้ยง

ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่ใช้

• โฟมล้างหน้า Physiogel claenser
• Ezerra cream
• Systral cream
• ครีมกันแดด SpectraBAN SC SPF 40 PA+++

วิธีใช้

1. ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้า Physiogel claenser เป็นสบู่เหลวล้างหน้าสูตรอ่อนโยน สำหรับคนผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ เหมาะกับคนเป็นสิวสเตียรอยด์ ใช้ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
2. ตอนเช้าหลังล้างหน้าบำรุงผิวด้วย Ezerra cream เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวแพ้ง่าย นอกจากจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นแล้ว ยังช่วยลดการอักเสบ และการระคายเคืองของผิวได้ด้วย ทาแล้วรู้สึกว่าหน้าแห้งน้อยลง น้องบอกชอบมาก
3. หลังจากทา Ezerra แล้ว ก่อนออกจากบ้านทาครีมกันแดด SpectraBAN SC SPF 40 เป็นครีมกันแดดเนื้อบางเบา ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม และสารแต่งสี เป็นครีมกันแดดที่เหมาะกับคนเป็นสิวมากตัวหนึ่ง
4. ก่อนนอนทาทั่วหน้าด้วย Systral cream เป็นยาทาลดการอักเสบ ผดผื่น และอาการคัน ไม่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ทาทิ้งไว้โดยไม่ต้องล้างออก

ช่วงเป็นสิวน้องผมหยุดแต่งหน้า ขัดหน้า มาส์กหน้า หยุดทำทรีทเม้นท์ทุกอย่าง อะไรที่รบกวนผิวเลิกหมด  ใช้แค่ผลิตภัณฑ์ที่บอกไว้ข้างบนเท่านั้น ปัญหาสิวที่เป็นก็ค่อยๆลดลง จนเดี๋ยวนี้ผิวหน้ากลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม สิวสเตียรอยด์ที่เคยขึ้นก็ล้มหายตายจากไป

คนเป็นสิวสเตียรอยด์นี่น่าเห็นใจครับ รักษายากมากเพราะเนื้อผิวดีๆโดนทำร้ายพังหมด ภูมิคุ้มกันที่เคยมีก็ไม่มี ผิวจึงแพ้ง่ายมาก ดังนั้นใครเป็นสิวสเตียรอยด์อยู่อย่าพยายามหาครีมแปลกใหม่มาใช้เลยครับ เสี่ยงเป็นหนักกว่าเดิม รีบรักษาให้หายแต่เนิ่นๆดีที่สุดครับ

5 มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวติดสเตียรอยด์ ผิวแพ้ง่าย

"มอยเจอร์ไรเซอร์" คือสิ่งจำเป็นสำหรับคนเป็นสิวสเตียรอยด์อย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องจากคนเป็นสิวสเตียรอยด์มักมีปัญหาผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น ระคายเคืองง่าย จึงจำเป็นต้องบำรุงผิวเพื่อให้ผิวชุ่มชื้น กลับมาแข็งแรงขึ้นอย่างเร่งด่วน วันนี้ผมมี มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวติดสเตียรอยด์ มาแนะนำครับ

1. Ezerra cream

Ezerra cream เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับคนผิวแพ้ง่าย ใช้สำหรับทาแก้อาการผิวหนังอักเสบที่เกิดขึ้นในเด็ก ทำให้ Ezerra cream มีความอ่อนโยนเหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย ช่วยลดอาการแห้งของผิว ลดอาการคัน ไม่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ที่เป็นอันตรายต่อผิว มันจึงเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับผิวติดสเตียรอยด์อย่างมาก ใช้ทาวันละ 2 ครั้ง เช้า-ก่อนนอน

ราคา

ขนาด 25 g ราคา 500 บาท

2. Physiogel cream

Physiogel cream เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับคนผิวแห้งยอดนิยม มีส่วนผสมของ Caprylic/Capric Triglyceride ช่วยในเรื่องความชุ่มชื้น และมี Ceramide-3 ช่วยลดการระคายเคืองของผิว มันจึงเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยฟื้นฟูผิวที่ติดสเตียรอยด์ให้กลับมาแข็งแรงมีสุขภาพดีเหมือนเดิม เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่น่าสนใจมากตัวหนึ่ง

ราคา

ขนาด 75 ml ราคา 590 บาท

3. Physiogel AI cream

Physiogel AI cream เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์อีกหนึ่งตัวที่ถูกสร้างมาเพื่อคนผิวแพ้ง่าย และผิวที่ต้องการความอ่อนโยนเป็นพิเศษ เนื้อครีมขาวข้น ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ และสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว มีส่วนผสมของสารที่ช่วยป้องกันและรักษาความชุ่มชื้นของผิว เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่แพทย์ผิวหนังหลายคนแนะนำให้คนเป็นสิวสเตียรอยด์ใช้ แต่ถ้าพูดถึงราคาก็ไม่ใช่เล่นๆเหมือนกัน

ราคา

ขนาด 50 ml ราคา 850 บาท

4. Aloegel องค์การเภสัช

Aloegel หรือ เจลว่านหางจระเข้ขององค์การเภสัช เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับคนเป็นสิวผิว และผิวแพ้ง่ายตัวหนึ่ง ส่วนผสมหลักคือ ว่านหางจระเข้ ช่วยรักษาความชุ่มชื้น ลดการอักเสบ อาการไหม้แดด ช่วยลดผดผื่นหรือการระคายเคืองของผิวหนัง นอกจากนี้ Aloegel ยังไม่มีส่วนผสมของครีมบำรุงผิวตัวอื่น มันจึงเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย คนเป็นสิวสเตียรอยด์มากตัวหนึ่ง แถมราคายังถูกมากอีกด้วย หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป

ราคา

ขนาด 30 g ราคา 50 บาท

5. ATOPALM

ATOPALM เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของ MEA เป็น ceramide สังเคราะห์ ที่ช่วยฟื้นฟู Barrier ของผิวให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้นผิวอีกหลายตัว เช่น Grape seed oil, Hydrogenated vegetable oil, Olive oil, Jojoba oil, Capric/caprylic triglyceride มันจึงช่วยรักษาความชุ่มชื้นหรือน้ำในผิวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมี Phytosterols ช่วยลดการอักเสบของผิวได้อีกด้วย และด้วยสรรพคุณที่หลากหลายขนาดนี้ ATOPALM จึงเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวติดสเตียรอยด์ที่น่าสนใจตัวหนึ่ง หาซื้อได้ตาม boots , watson หรือตามห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่

ราคา

ขนาด 30 ml ราคา 330 บาท

6. Defenza cream

เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวสำหรับผิวแพ้ครีม แสบ แดง คัน ผิวติดสเตียรอยด์โดยเฉพาะ มีส่วนผสมจากธรรมชาติสำคัญ 3 ตัว คือ

1. Blackcurrant Seed Oil
ช่วยบรรเทาการอักเสบของผิว ลดความเสียหายของเนื้อเยื่อที่เกิดจากการถูกยุงกัด

2. Balloon Vine Extract
ช่วยบรรเทาอาการคัน ผื่นแพ้ทางผิวหนัง มีส่วนช่วยลดการอักเสบของผิว

3. Sunflower Oil Concentrate
น้ำมันเมล็ดทานตะวัน ที่มีวิตามิน A,C,E,D และกรดไขมันที่ไม่อุดตันรูขุมขนผสมอยู่ นิยมนำมาใช้บำรุงผิวโดยเฉพาะผิวที่บอบบาง แพ้ง่าย ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

จากที่ลองใช้มาต้องบอกว่าช่วยบรรเทาอาการแสบ แดง คันของผิวได้เป็นอย่างดี ราคาก็ไม่แพงมาก จัดเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับคนผิวแพ้ง่ายมากที่สุดตัวหนึ่งครับ

ราคา

ขนาด 12 g ราคา 295 บาท


นี่คือ มอยเจอร์ไรเซอร์ สำหรับคนเป็นสิวสเตียรอยด์ ผิวแพ้ง่าย ที่ผมอยากแนะนำ คนผิวอ่อนแอ ขาดความชุ่มชื้น และมีการอักเสบร่วมด้วยต้องการครีม หรือมอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังต้องเป็นครีมที่ไม่ก่อการระคายเคืองให้ผิวอีกด้วย ใครมีปัญหาผิวติดสเตียรอยด์อยู่ลองเอามอยเจอร์ที่แนะนำไปใช้ดูนะครับ มันช่วยได้เยอะจริงๆ

รวมวิธีรักษาสิวสเตียรอยด์ หน้าแพ้ครีม ให้หายไวไว

"สิวสเตียรอยด์" หรือ ที่นิยมเรียกว่า หน้าติดสเตียรอยด์ เป็นอาการอักเสบของผิวหนังที่ทำให้เกิดผดผื่น ตุ่มแดง หรือสิวเห่อขึ้นมาบนผิวหน้าอย่างรวดเร็ว สาเหตุการเกิดสิวสเตียรอยด์ส่วนใหญ่ มักเกิดจากการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารปรอท ตะกั่ว หรือสารสเตียรอยด์ในปริมาณสูงเป็นเวลานาน พอหยุดใช้ครีม อาการผื่นแดง หรือสิวจึงเกิดขึ้นและลุกลามอย่างรวดเร็ว เป็นสิวที่น่ากลัวมาก

อาการที่บอกว่าหน้าติดสเตียรอยด์

• เกิดสิวผดเม็ดเล็กๆ หรือผื่นแดงจำนวนมาก
• เกิดสิวหรือผดผื่นหลังหยุดทายา หรือครีมทาหน้า
• ผิวหน้าบางผิดปกติ บางจนเห็นเส้นเลือด
• ผิวแพ้ง่ายมากขึ้น ทาครีมอะไรไม่ค่อยได้
• หน้าแดงมาก เกิดจากเส้นเลือดฝอยขยายตัวผิดปกติ
• อาจมีสิวอักเสบปะทุขึ้นมาจำนวนมาก
• เป็นสิวไม่มีหัว

วิธีรักษาสิวสเตียรอยด์

1. หยุดแต่งหน้าทาครีม

เนื่องจากผิวของคนเป็นสิวสเตียรอยด์จะแพ้ง่ายกว่าคนปกติ ดังนั้นถ้าใครสงสัยว่าตัวเองเป็นสิวสเตียรอยด์อยู่ ควรหยุดแต่งหน้า หยุดทาครีมที่เคยใช้เป็นประจำก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหน้าระคายเคือง เนื่องจากสารบางอย่างที่อยู่ในเครื่องสำอางอาจไปกระตุ้นให้ผื่นหรือสิวที่เกิดขึ้นลุกลามได้

2. ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า

เหตุผลเหมือนข้อแรก บางครั้งสารที่อยู่ในโฟมล้างหน้าอาจทำให้ปัญหาสิวแย่ลงกว่าเดิม ดังนั้นการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า หรือโฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยน สามารถช่วยบรรเทาการเห่อของสิวสเตียรอยด์ได้ และที่สำคัญไม่ควรล้างหน้าบ่อยเกินไป เพราะการล้างหน้าบ่อยจะยิ่งกระตุ้นให้ผิวระคายเคือง ล้างวันละ 2 ครั้งกำลังดี ตัวอย่างโฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยน เช่น Physiogel cleanser , Cetaphil gentle skin cleanser , Acne aid gentle cleanser , Smooth e babyface gel , Oilatum bar soap

3. หยุดทายารักษาสิวตัวแรง

ถึงแม้เราจะเรียกสิวที่เกิดขึ้นว่า สิวสเตียรอยด์ แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่สิว มันเป็นการอักเสบของผิวหนังมากกว่า ทำให้การทายารักษาสิวอย่างเช่น retin-a , differin , isotrexin , epiduo ที่มีสรรพคุณช่วยผลัดเซลผิว ลดการหนาตัวของผิวชั้นบน ลดการอุดตันของสิว ไม่สามารถรักษาสิวสเตียรอยด์ได้ นอกจากนี้ยารักษาสิวเหล่านี้ อาจทำให้สิวลุกลามมากขึ้นได้ ดังนั้นตอนนี้ใครเป็นสิวสเตียรอยด์ และคิดลองใช้ยาทาเหล่านี้อยู่ หยุดความคิดไปก่อนดีที่สุดครับ

4. หามอยเจอร์ไรเซอร์สูตรอ่อนโยนมาทา

คนเป็นสิวสเตียรอยด์ผิวจะแห้งผิดปกติ เพราะผิวหนังถูกทำลายอย่างรุนแรง ทำให้ไม่สามารถเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ได้ ผิวจึงเกิดการระคายเคือง และอักเสบตลอดเวลา การทามอยเจอร์ไรเซอร์ เป็นการเติมน้ำหรือความชุ่มชื้นเข้าสู่ผิว ช่วยลดการระคายเคือง ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น นอกจากนี้มอยเจอร์ไรเซอร์บางตัวยังช่วยลดการอักเสบของผิวหน้าได้อีกด้วย ตัวอย่าง มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับคนเป็นสิวสเตียรอยด์ เช่น Physiogel cream , Physiogel ai cream , Ezerra cream , เจลว่านหางจระเข้ Aloegel , ATOPALM , Defenza cream

5. ทายาลดผดผื่นคัน

บางครั้งสิวสเตียรอยด์ อาจก่อให้เกิดอาการคัน หรือผดผื่นแดงเกิดขึ้น การทายาเพื่อบรรเทาอาการเหล่านี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น ตัวอย่างยาทา เช่น Protopic 0.03% , 0.1% , Elidel , Systral Cream ช่วยลดอาการแพ้ กดภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบของผิวหนัง ช่วยให้ผื่นคันลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ยาเหล่านี้ไม่ควรใช้ติดต่อกันนานเกิน 1 เดือน เพราะตัวยากดภูมิคุ้มกันใช้นานไม่ดี และไม่ควรใช้ในหญิงให้นมบุตร แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์

สิวสเตียรอยด์เป็นปัญหาผิวหนังที่คนไทยเป็นกันเยอะ สาเหตุหลักมาจากการใช้ครีมที่ผสมสารอันตราย ครีมที่ไม่ได้มาตรฐาน จะดีกว่ามั้ยถ้าเราระมัดระวังการใช้ครีมมากขึ้น ไม่เห็นแก่ของถูก หรือการรีวิวที่ไม่สมเหตุสมผล ประเภทสิวหายใน 7 วัน หน้าใสชั่วข้ามคืน ถ้าทำได้ผมว่าคนไทยคงเป็นสิวสเตียรอยด์น้อยลงแน่นอนครับ