"สิวสเตียรอยด์" หรือ ที่นิยมเรียกว่า หน้าติดสเตียรอยด์ เป็นอาการอักเสบของผิวหนังที่ทำให้เกิดผดผื่น ตุ่มแดง หรือสิวเห่อขึ้นมาบนผิวหน้าอย่างรวดเร็ว สาเหตุการเกิดสิวสเตียรอยด์ส่วนใหญ่ มักเกิดจากการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารปรอท ตะกั่ว หรือสารสเตียรอยด์ในปริมาณสูงเป็นเวลานาน พอหยุดใช้ครีม อาการผื่นแดง หรือสิวจึงเกิดขึ้นและลุกลามอย่างรวดเร็ว เป็นสิวที่น่ากลัวมาก
อาการที่บอกว่าหน้าติดสเตียรอยด์
- เกิดสิวผดเม็ดเล็กๆ หรือผื่นแดงจำนวนมาก
- เกิดสิวหรือผดผื่นหลังหยุดทายา หรือครีมทาหน้า
- ผิวหน้าบางผิดปกติ บางจนเห็นเส้นเลือด
- ผิวแพ้ง่ายมากขึ้น ทาครีมอะไรไม่ค่อยได้
- หน้าแดงมาก เกิดจากเส้นเลือดฝอยขยายตัวผิดปกติ
- อาจมีสิวอักเสบปะทุขึ้นมาจำนวนมาก
- เป็นสิวไม่มีหัว
วิธีรักษาสิวสเตียรอยด์
1. หยุดแต่งหน้าทาครีม
เนื่องจากผิวของคนเป็นสิวสเตียรอยด์จะแพ้ง่ายกว่าคนปกติ ดังนั้นถ้าใครสงสัยว่าตัวเองเป็นสิวสเตียรอยด์อยู่ ควรหยุดแต่งหน้า หยุดทาครีมที่เคยใช้เป็นประจำก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหน้าระคายเคือง เนื่องจากสารบางอย่างที่อยู่ในเครื่องสำอางอาจไปกระตุ้นให้ผื่นหรือสิวที่เกิดขึ้นลุกลามได้
2. ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า
เหตุผลเหมือนข้อแรก บางครั้งสารที่อยู่ในโฟมล้างหน้าอาจทำให้ปัญหาสิวแย่ลงกว่าเดิม ดังนั้นการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า หรือโฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยน สามารถช่วยบรรเทาการเห่อของสิวสเตียรอยด์ได้ และที่สำคัญไม่ควรล้างหน้าบ่อยเกินไป เพราะการล้างหน้าบ่อยจะยิ่งกระตุ้นให้ผิวระคายเคือง ล้างวันละ 2 ครั้งกำลังดี ตัวอย่างโฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยน เช่น Physiogel cleanser , Cetaphil gentle skin cleanser , Acne aid gentle cleanser , Smooth e babyface gel , Oilatum bar soap
3. หยุดทายารักษาสิวตัวแรง
ถึงแม้เราจะเรียกสิวที่เกิดขึ้นว่า สิวสเตียรอยด์ แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่สิว มันเป็นการอักเสบของผิวหนังมากกว่า ทำให้การทายารักษาสิวอย่างเช่น retin-a , differin , isotrexin , epiduo ที่มีสรรพคุณช่วยผลัดเซลผิว ลดการหนาตัวของผิวชั้นบน ลดการอุดตันของสิว ไม่สามารถรักษาสิวสเตียรอยด์ได้ นอกจากนี้ยารักษาสิวเหล่านี้ อาจทำให้สิวลุกลามมากขึ้นได้ ดังนั้นตอนนี้ใครเป็นสิวสเตียรอยด์ และคิดลองใช้ยาทาเหล่านี้อยู่ หยุดความคิดไปก่อนดีที่สุดครับ
4. หามอยเจอร์ไรเซอร์สูตรอ่อนโยนมาทา
คนเป็นสิวสเตียรอยด์ผิวจะแห้งผิดปกติ เพราะผิวหนังถูกทำลายอย่างรุนแรง ทำให้ไม่สามารถเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ได้ ผิวจึงเกิดการระคายเคือง และอักเสบตลอดเวลา การทามอยเจอร์ไรเซอร์ เป็นการเติมน้ำหรือความชุ่มชื้นเข้าสู่ผิว ช่วยลดการระคายเคือง ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น นอกจากนี้มอยเจอร์ไรเซอร์บางตัวยังช่วยลดการอักเสบของผิวหน้าได้อีกด้วย ตัวอย่าง มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับคนเป็นสิวสเตียรอยด์ เช่น Physiogel cream , Physiogel ai cream , Ezerra cream , เจลว่านหางจระเข้ Aloegel , ATOPALM , Defenza cream
5. ทายาลดผดผื่นคัน
บางครั้งสิวสเตียรอยด์ อาจก่อให้เกิดอาการคัน หรือผดผื่นแดงเกิดขึ้น การทายาเพื่อบรรเทาอาการเหล่านี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น ตัวอย่างยาทา เช่น Protopic 0.03% , 0.1% , Elidel , Systral Cream ช่วยลดอาการแพ้ กดภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบของผิวหนัง ช่วยให้ผื่นคันลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ยาเหล่านี้ไม่ควรใช้ติดต่อกันนานเกิน 1 เดือน เพราะตัวยากดภูมิคุ้มกันใช้นานไม่ดี และไม่ควรใช้ในหญิงให้นมบุตร แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์
สิวสเตียรอยด์เป็นปัญหาผิวหนังที่คนไทยเป็นกันเยอะ สาเหตุหลักมาจากการใช้ครีมที่ผสมสารอันตราย ครีมที่ไม่ได้มาตรฐาน จะดีกว่ามั้ยถ้าเราระมัดระวังการใช้ครีมมากขึ้น ไม่เห็นแก่ของถูก หรือการรีวิวที่ไม่สมเหตุสมผล ประเภทสิวหายใน 7 วัน หน้าใสชั่วข้ามคืน ถ้าทำได้ผมว่าคนไทยคงเป็นสิวสเตียรอยด์น้อยลงแน่นอนครับ
Share this
EmoticonEmoticon